ข่าวประชาสัมพันธ์ เชฟรอน และมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย สานต่อโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียนระยะที่ 2 ในจังหวัดสงขลา

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย เดินหน้า โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน หรือ Chevron Streetwise ระยะที่ 2 ปี 2560 เพื่อสานต่อการให้ความรู้ในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกวิธี สร้างระเบียบวินัย และวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยอันจะเป็นการช่วยป้องกันอุบัติเหตุจราจร โดยจะดำเนินงานผ่านการทำความเข้าใจกับผู้บริหารสถานศึกษา พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน อบรมวิทยากร ตลอดจนให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนในอำเภอเมืองและอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้มอบงบประมาณสนับสนุน 2 ล้านบาท แก่มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย โดยได้รับเกียรติจากนายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธานในพิธีมอบ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด นำโดย นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร และ นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ โดยมี นางรัตนวดี เหมนิธิ วินเธอว์ ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ประเทศไทย เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมคณะตัวแทนผู้บริหารโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ

สำหรับการดำเนินโครงการเดินทางปลอดภัยระยะที่ 2 ได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานไปยังโรงเรียนในอำเภอสิงหนครอีก 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดบ่อปาบ โรงเรียนวัดธรรมโฆษณ์ โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธาร โรงเรียนวัดโลกา และโรงเรียนวัดตาหลวงคง ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียน คณะอาจารย์ และผู้ปกครอง ได้รับความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนจากการเข้าร่วมโครงการนี้มากกว่า 15,000 คน เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนในบริเวณโรงเรียนเป้าหมาย

โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน เป็นความร่วมมือของเชฟรอนประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย และหน่วยงานจากภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2559 ด้วยงบประมาณสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้นกว่า 4,400,000 บาท มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 6 โรงเรียน ในอำเภอเมืองและอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ครอบคลุมนักเรียน คณะอาจารย์ และผู้ปกครองกว่า 13,800 คน โดยพบว่าโครงการมีส่วนช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้แก่กลุ่มเยาวชนในโรงเรียนพื้นที่เป้าหมาย โดยพบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนเพิ่มขึ้น จาก 3% เป็น 38% และนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษามีความตระหนักถึงการใช้ถนนอย่างปลอดภัยเพิ่มขึ้น พร้อมมอบหมวกนิรภัยจำนวน 2,000 ใบ แก่นักเรียนที่ขาดแคลนในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย