ข่าวประชาสัมพันธ์ สอวช. – คุรุสภา – SEAMEO STEM-ED – เชฟรอน ผนึกกำลัง 10 มหาวิทยาลัย เดินหน้าโครงการ STEP ปลดล็อกยกระดับการผลิตครูมืออาชีพให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) – คุรุสภา – ศูนย์ SEAMEO STEM-ED – บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมเปิดโครงการ Strengthening Teacher Education Program (STEP) ตั้งเป้าเป็นโมเดลต้นแบบที่ช่วยยกระดับการพัฒนาคุณภาพการผลิตครูรุ่นใหม่ มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมแล้ว จำนวน 10 แห่ง     

ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า สถาบันอุดมศึกษาไทยอยู่ในช่วงเร่งปรับตัวให้สอดรับเทรนด์การศึกษาในโลกยุคใหม่ที่เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ปัญหาเป็น มีความคิดสร้างสรรค์ เท่าทันเทคโนโลยี และเรียนรู้ได้แบบไร้พรมแดน สะท้อนค่านิยม    การเรียนรู้ของเยาวชน ซึ่งมองว่าการเรียนรู้ไม่จำกัดเฉพาะในห้องเรียนและการเรียนในมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด Online short course ได้รับความนิยมมากขึ้น สถาบันอุดมศึกษาไทยวันนี้จึงไม่ได้แข่งขันเฉพาะภายในประเทศแต่ยังมีคู่แข่งต่างชาติด้วย ดังนั้นภารกิจสำคัญของ สอวช. จึงจำเป็นต้องเร่งมองหาวิธีจัดการศึกษาในระดับที่เป็นนวัตกรรมทางการอุดมศึกษาที่พิเศษกว่าหลักสูตรปกติเพื่อช่วยให้คณะศึกษาศาสตร์และคณะครุศาสตร์ในภาพรวมของประเทศสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างยั่งยืน

 

“โครงการ Strengthening Teacher Education Program (STEP) เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ตรงกับภารกิจ สอวช. ในการส่งเสริมนโยบายด้านการอุดมศึกษา โดยเฉพาะการได้ร่วมมือกับคุรุสภา ผู้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพครู ออกใบอนุญาตวิชาชีพ รับรองหลักสูตรปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาของสถาบันผลิตครูที่เป็นต้นน้ำสำคัญของวงการการศึกษาไทย รวมถึงองค์ความรู้จากศูนย์ SEAMEO STEM-ED และการสนับสนุนที่ดีจากเชฟรอน” ดร.กิติพงค์ กล่าว

 

ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า โครงการ Strengthening Teacher Education Program (STEP) ถือเป็นโมเดลต้นแบบที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาแก่นิสิตนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์และครุศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ให้พร้อมจบไปเป็นครูมืออาชีพ โดยจะนำองค์ความรู้และเทคนิคการสอนภาคปฏิบัติจาก University of Pennsylvania สถาบันผลิตครูชั้นนำของสหรัฐอเมริกา มาถ่ายทอดให้กับคณาจารย์และนิสิตนักศึกษา “เน้นการฝึกปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี” เพื่อใช้ในการสอนได้จริง สอดรับงานวิจัยหลายชิ้นซึ่งระบุว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูประบบการศึกษาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะครูวิชาชีพในอนาคตต้องเพิ่มทักษะการสอนด้วยกระบวนการฝึกประสบการณ์จริงที่เข้มข้นมากกว่าทฤษฎี

 

“คาดหวังว่าโครงการนี้จะนำไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดแนวทางกำกับคุณภาพวิชาชีพครู อาทิ มาตรฐานหลักสูตรในการผลิตครู การออกใบประกอบวิชาชีพครู ฯลฯ ช่วยเติมเต็มประสิทธิภาพให้วงการครูได้แบบบูรณาการ ตั้งแต่ผู้ผลิตครูต้นน้ำ ได้แก่ มหาวิทยาลัย คณาจารย์ จนถึงปลายน้ำอย่างกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่จบออกไปเป็นครูวิชาชีพในอนาคต” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว

 

ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ศูนย์ SEAMEO STEM-ED) กล่าวว่า องค์ประกอบสำคัญของโครงการ ประกอบด้วย  1. ภาควิชาการ ถ่ายทอดแนวปฏิบัติการสอน (Core Teaching Practices) พื้นฐานจำเป็นที่ครูต้องเรียน อาทิ การฝึกเทคนิคและวิธีการสอนที่ช่วยในการตั้งคำถาม พร้อมให้คณาจารย์และนิสิตนักศึกษาช่วยกันหากระบวนการปรับปรุงการเรียนการสอน สร้างและแบ่งปันเนื้อหา/แพลตฟอร์ม กรณีศึกษาต่างๆ โดยเชิญ Consortium for Core Practices จาก University of Pennsylvania มาให้คำแนะนำด้วย 2. ภาคปฏิบัติ จัดตั้งเป็นทีม โดยเน้นกระบวนการเป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการที่มีคุณภาพ โดยแต่ละทีมต้องมีครูพี่เลี้ยง ที่มีประสบการณ์การสอนและผ่านการอบรมด้านการให้คำปรึกษา มาช่วยให้คำแนะนำ พร้อมเข้าเยี่ยมนิสิตนักศึกษาเพื่อให้คำปรึกษา 2 ครั้งต่อเดือน 

 

“โครงการ Strengthening Teacher Education Program (STEP) เป็นโครงการระยะยาว 3 ปี ตั้งแต่ตุลาคม 2565 - กันยายน 2568 ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยตอบรับเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 10 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี“ ดร.พรพรรณ กล่าว

 

นางสาวพรสุรีย์ กอนันทา รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า โครงการ Strengthening Teacher Education Program (STEP) นับเป็นการผสานความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง 2 หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานและนโยบายการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้กับประเทศ ซึ่งเชฟรอนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนโครงการฯ ทั้งการจัดหาผู้เชี่ยวชาญ ทุนการดำเนินโครงการ การฝึกอบรม ทุนวิจัย ตลอดจนการจัดกิจกรรมการให้ความรู้เพื่อการขยายผลต่อไป ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 12 ล้านบาท

 

“โครงการ STEP นับเป็นอีกหนึ่งการต่อยอดความสำเร็จของโครงการ Chevron Enjoy science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ในระดับนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะครูในสาขาสะเต็ม ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ การสนับสนุนโครงการดังกล่าว ยังสอดรับตามเจตนารมณ์ของเชฟรอนที่มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘พลังคน’ อันถือเป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติมาตลอดระยะเวลา 60 ปี ที่เชฟรอนได้ดำเนินภารกิจจัดหาพลังงานให้กับประเทศด้วยความปลอดภัย ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน” นางสาวพรสุรีย์ กล่าวทิ้งท้าย

 

อนึ่ง ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of Education Organization Regional Centre for STEM Education - ศูนย์ SEAMEO STEM-ED) เป็นองค์การระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามมติ ครม. ภายใต้การตกลงร่วมกันระหว่างสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of Education Council หรือ SEAMEC) ของกลุ่มชาติสมาชิกอาเซียน ภารกิจหลักเพื่อเป็นศูนย์กลางวิจัยพัฒนา เผยแพร่องค์ความรู้นวัตกรรมด้านสะเต็มศึกษา พร้อมให้คำเสนอแนะแก่ผู้กำหนดนโยบายใน 11 ชาติอาเซียน