ข่าวประชาสัมพันธ์ เชฟรอนพร้อมส่งมอบแหล่งเอราวัณด้วยความปลอดภัย จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบ และได้ลงนามข้อตกลง 4 ฉบับ กับ ปตท.สผ. อีดี

Chatit Huayhongtong (center), President, Chevron Thailand Exploration and Production, Ltd. (Chevron) at the signing ceremony of the Deed of Novation and Amendment of E2FSO Bareboat Charterparty, PFSO G1/61 Access and Service Agreement, Joint Utilization Facilities Agreement, and Operation and Maintenance Support Agreement aimed at achieving the objective of a safe transition of Erawan to PTTEP ED in April 2022

นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง (กลาง) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอน) ร่วมลงนามในข้อตกลงการโอนและแก้ไขสัญญาเช่าเรือกักเก็บปิโตรเลียมเอราวัณ 2 ข้อตกลงในการใช้เรือกักเก็บปิโตรเลียมปัตตานีในพื้นที่โครงการ G1/61 ข้อตกลงการใช้สิ่งติดตั้งร่วมกัน และข้อตกลงในการให้การสนับสนุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา ซึ่งเป็นการเตรียมการที่สำคัญในการส่งมอบแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณด้วยความปลอดภัยในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ให้กับ ปตท.สผ. อีดี

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ประกาศความพร้อมในการส่งมอบแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณด้วยความปลอดภัยในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบ (Transfer Support Center) เพื่อให้การส่งมอบเป็นไปด้วยความปลอดภัยและราบรื่น นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี ในการลงนามข้อตกลงการโอนและแก้ไขสัญญาเช่าเรือกักเก็บปิโตรเลียมเอราวัณ 2 (Deed of Novation and Amendment of Erawan 2 Floating Storage and Offloading Vessel [E2FSO] Bareboat Charterparty) ข้อตกลงในการใช้เรือกักเก็บปิโตรเลียมปัตตานี ในพื้นที่โครงการ G1/61 (Pattani Floating Storage and Offloading Vessel [PFSO] G1/61 Access and Service Agreement) ข้อตกลงการใช้สิ่งติดตั้งร่วมกัน (Joint Utilization Facilities Agreement หรือ JUFA) และ ข้อตกลงในการให้การสนับสนุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (Operation and Maintenance Support Agreement) ซึ่งเป็นการเตรียมการที่สำคัญในการส่งมอบแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณด้วยความปลอดภัยในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ให้กับ ปตท.สผ. อีดี และเพื่อสนับสนุนภารกิจของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ทั้งนี้ ภายหลังจากการส่งมอบดังกล่าว แหล่งเอราวัณที่ดำเนินการโดยเชฟรอนภายใต้สัญญาสัมปทาน จะเปลี่ยนผ่านเป็นแปลงสำรวจปิโตรเลียม G1/61 ที่ดำเนินการโดยปตท.สผ. อีดี ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract หรือ PSC) 
 
ในฐานะผู้ดำเนินงานของแหล่งเอราวัณด้วยความรับผิดชอบตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  เชฟรอนได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ในสัญญาสัมปทานอย่างครบถ้วน และได้มีการตระเตรียมความพร้อมการส่งมอบในทุกด้าน ทั้งด้านแผนงาน ข้อมูล กำลังคน และอุปกรณ์ รวมถึงยังได้มีการจัดเตรียมและทบทวนแผนการดำเนินงานกับทุกหน่วยปฏิบัติงานภายในเชฟรอนเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ เชฟรอนได้จัดการฝึกซ้อมการรับมือแผนฉุกเฉินโดยจำลองในสถานการณ์ต่างๆ (desk top exercises) หลายครั้ง ร่วมกับทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและปตท.สผ. อีดี เพื่อทดสอบความพร้อมในการการส่งมอบ รวมถึงฝึกการรับมือในกรณีฉุกเฉินด้วย
 
ทั้งนี้ ศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบของเชฟรอนจัดตั้งขึ้นที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร และจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18-24 เมษายน 2565 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการในการส่งมอบแหล่งสัมปทาน โดยการทำงานของศูนย์สนับสนุนดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากทาง ปตท.สผ. อีดี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานทำงานร่วมกันกับเชฟรอน ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริงกลางอ่าวไทย เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งมอบจะเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ เชฟรอนยังจะให้การสนับสนุนการทำงานของศูนย์กำกับ ติดตาม ควบคุมสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านระบบและการส่งต่อความรับผิดชอบจากผู้รับสัมปทานเป็นผู้รับสัญญา (War Room) ที่จัดตั้งขึ้นโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน อย่างเต็มกำลัง ในระหว่างวันที่ 23 เมษายน 2565 เวลา 18.00น. ถึงวันที่ 24 เมษายน 2565 เวลา 03.00 น. ร่วมกับตัวแทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ปตท.สผ. อีดี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  

ข้อตกลงทั้งสี่ฉบับที่ได้ลงนามไปล่าสุดนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่ช่วยให้การส่งมอบแหล่งเอราวัณสำเร็จลุล่วงอย่างปลอดภัย รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของทั้งสองฝ่ายในการจัดหาพลังงานอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ภายหลังการเปลี่ยนผ่านแหล่งเอราวัณ โดยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการเรือกักเก็บปิโตรเลียมทั้ง E2FSO และ PFSO ที่ทำหน้าที่สำคัญในการกักเก็บปิโตรเลียมทั้งจากแหล่งปิโตรเลียมภายในพื้นที่โครงการ G1/61 และจากแหล่งอื่นๆ ในอ่าวไทย รวมถึงข้อตกลงการใช้ประโยชน์ร่วมกันสำหรับสิ่งติดตั้ง และการสนับสนุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา  จะช่วยสนับสนุนให้การผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยของทั้งปตท.สผ. อีดี และเชฟรอนดำเนินการต่อไปได้ด้วยความปลอดภัย
 
Chatit Huayhongtong, president of Chevron Thailand Exploration and Production, Ltd.

นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เชฟรอนมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบแหล่งเอราวัณอย่างปลอดภัยในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 โดยที่ผ่านมาบุคลากรของเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อเตรียมการส่งมอบการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณ และบริษัทฯ มั่นใจถึงความพร้อมในการดำเนินงานส่งมอบที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2565 นี้ ทั้งนี้ การลงนามข้อตกลงทั้ง 4 ฉบับล่าสุดนี้ นับเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเชฟรอนและความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ ผมขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และปตท.สผ. อีดี เพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัย”

นายชาทิตย์ กล่าวต่อว่า “เอราวัณ เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในอ่าวไทย ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้มากขึ้น และยังเป็นเหมือนโรงเรียนพลังงานกลางอ่าวไทยที่ช่วยพัฒนาบุคลากรในสาขาปิโตรเลียมให้กับประเทศจำนวนมาก จึงเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเชฟรอนที่ได้สร้างและดำเนินงานแหล่งเอราวัณมากว่า 40 ปี ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปกับการสร้างบุคลากรชาวไทยและวางรากฐานอุตสาหกรรมปิโตรเลียมของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความทุ่มเทของพนักงานเชฟรอนและพนักงานบริษัทผู้รับเหมาทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่อุทิศตนทำงานเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานด้วยความปลอดภัยให้กับประเทศมาตลอดกว่า 4 ทศวรรษ หลังจากนี้ เชฟรอนยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการจัดหาพลังงานที่สะอาด อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต”

ถึงแม้ว่าการส่งผ่านแหล่งเอราวัณเป็นกระบวนการที่มีความท้าทายด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประสานความร่วมมือกับปตท.สผ. อีดี และ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จนสามารถบรรลุข้อตกลงที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณร่วมกันหลายประการ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัยตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทานปิโตรเลียม ตลอดจนสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต

 
กลุ่มคนงานบนเรือในทะเลกลุ่มคนงานบนเรือในทะเล
กลุ่มคนงานบนเรือในทะเล