ข่าวประชาสัมพันธ์ เชฟรอนจับมือพันธมิตรจัดค่ายนิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อน ปีที่ 25
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งและป่าชายเลน จัดค่ายนิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อน (Marine Ecology Summer Camp) ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล อันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อให้ความรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเลแก่เยาวชน ผ่านการทดลองและฝึกปฏิบัติในสถานที่จริง เพื่อวางรากฐานการสร้างบุคลากรในสาขานี้ที่มีคุณภาพ ตลอดจนจุดประกายจิตสำนึกการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติให้แก่คนรุ่นใหม่ต่อไป โดยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 25
นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า "การสนับสนุนค่ายนิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อนสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการเป็นพันธมิตรที่ดีกับสังคมไทยผ่านการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ อาทิ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม เพื่อพัฒนาบุคลากรในสาขานี้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน”
นางหทัยรัตน์ กล่าวต่อไปว่า “ค่ายนิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อน ได้สร้างแรงบันดาลใจและเสริมองค์ความรู้ให้กับเยาวชนที่จะก้าวสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลในอนาคตไปแล้วกว่า 700 คน และในปีนี้มีนิสิตนักศึกษาจาก 13 สถาบันทั่วประเทศ จำนวน 28 คน เข้าร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเล ทั้งในเรื่องของปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมถึงกลไกและกระบวนการสำคัญที่เกิดขึ้นในทะเล ผ่านการทดลองและฝึกปฏิบัติ ณ สถานที่จริง เป็นเวลา 1 เดือน ดิฉันเชื่อมั่นว่านอกจากมิตรภาพที่งดงามจากการเรียนรู้ร่วมกันแล้วนั้น นิสิตนักศึกษาจะนำวิชาความรู้จากการศึกษาเล่าเรียนทั้งภาคทฤษฎีและประสบการณ์จากการลงมือปฎิบัติจริงไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง สถาบันการศึกษา และประเทศชาติต่อไป”
ดร.อุดมศักดิ์ ดรุมาศ หรือ “อาจารย์ขุน” อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เล่าถึงกิจกรรมในปีนี้ว่า “ไฮไลท์ของกิจกรรมค่ายในปีนี้ คือการร่วมกันเก็บขยะ ตามชายฝั่งทะเล บริเวณอ่าวพังงา เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมแก่คนรุ่นใหม่ในการดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาขยะทะเลซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจังมากขึ้น และปีหน้าจะมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดค่าย รวมถึงจะมีการพัฒนาในเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอนในค่าย ที่จะมีการออกภาคสนามมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาทุกคนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริงมากยิ่งขึ้น”
อาจารย์ขุน ซึ่งเป็นศิษย์เก่าค่ายรุ่นแรก เล่าต่อถึงรูปธรรมความสำเร็จจากค่ายว่า “ความสำเร็จของค่ายตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา คือการได้มีส่วนในการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพในด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลออกรับใช้สังคมและประเทศชาติ คนที่ผ่านค่ายนี้ตอนนี้ที่จบปริญญาเอกประมาณ 10 คน เป็นอาจารย์สอนอีกกว่า 30 คน และอีกส่วนหนึ่งคือเป็นนักวิชาการกระจายตามหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนรุ่นต่อๆ ไปได้”
“แพรวพราว” นางสาวจุฑามาศ โพธาขวัญประชา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรชีววิทยาเชิงอนุรักษ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากค่ายนี้ว่า “ความตั้งใจตั้งแต่ต้นคืออยากมาเรียนรู้เกี่ยวกับทะเลเพราะตรงกับสายที่เรียนมา พอได้มาจริงรู้สึกได้เลยว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากที่มาร่วมค่ายนี้ ที่ประทับใจมากๆ คือมิตรภาพของเพื่อนร่วมค่ายตลอดระยะเวลา 30 วัน และคิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมดจากค่ายนี้ เราสามารถนำไปต่อยอดกับการเรียนและถ่ายทอดให้เพื่อนคนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยได้ด้วย และในอนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากทำงานในสายนี้”
ค่ายนิเวศวิทยาทางทะเลภาคฤดูร้อน ได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ของนักวิทย์และปลูกสำนึกรักษ์ท้องทะเลไทย แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ มาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อแน่ว่าเยาวชนทั้ง 28 คน ที่มาร่วมกิจกรรมในปีที่ 25 นี้ จะเบ่งบานเป็นต้นกล้านักอนุรักษ์ท้องทะเลไทยต่อไปในอนาคต ดังเช่นรุ่นพี่ของพวกเขา
