ข่าวประชาสัมพันธ์ เชฟรอนประเทศไทย คว้ารางวัล Thailand Energy Awards 2018 ตอกย้ำความเป็นเลิศในการปฎิบัติงาน
![รางวัล Thailand Energy Awards 2018](/-/media/thailand/news/images/thailand-energy-awards.jpg?h=333&w=500&la=th&hash=9D43386F7C7F6D2417CFFE0E4E68F744)
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง (ซ้าย) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบรางวัล Thailand Energy Awards 2018 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง ให้แก่นายไพโรจน์ กวียานันท์ (ขวา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด คว้ารางวัลดีเด่นจากเวทีประกวด Thailand Energy Awards 2018 ซึ่งจัดโดยกระทรวงพลังงาน เพื่อมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการและหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในการส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน โดยเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งมีโครงการส่งเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 268 โครงการ
เชฟรอนประเทศไทย ได้รับรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง จากความสำเร็จในการบริหารจัดการการขนส่งทางเรือที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีนายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้ารับรางวัลจากพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้ เชฟรอนประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการใช้เรือและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อวางการเดินเรือขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสาร การใช้เทคโนโลยีตรวจวัดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามเวลาจริง (Real Time Fuel Monitoring System) เพื่อเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องยนต์และความสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้วิเคราะห์หาโอกาสและวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ส่งผลให้สามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลในปี 2560 ลงได้ถึง 4.6 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 96 ล้านบาท พร้อมช่วยอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
นายไพโรจน์ กล่าวว่า “เชฟรอนภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 55 ปี ของการดำเนินงานในประเทศไทย เชฟรอนมุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาและนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานในอ่าวไทย ที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต”