ข่าวประชาสัมพันธ์ เชฟรอนประเทศไทย คว้ารางวัล Thailand Energy Awards 2018 ตอกย้ำความเป็นเลิศในการปฎิบัติงาน

รางวัล Thailand Energy Awards 2018

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง (ซ้าย) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบรางวัล Thailand Energy Awards 2018 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง ให้แก่นายไพโรจน์ กวียานันท์ (ขวา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด คว้ารางวัลดีเด่นจากเวทีประกวด Thailand Energy Awards 2018 ซึ่งจัดโดยกระทรวงพลังงาน  เพื่อมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการและหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในการส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน โดยเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งมีโครงการส่งเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 268 โครงการ

เชฟรอนประเทศไทย ได้รับรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง จากความสำเร็จในการบริหารจัดการการขนส่งทางเรือที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีนายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้ารับรางวัลจากพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ทั้งนี้ เชฟรอนประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการใช้เรือและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อวางการเดินเรือขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสาร การใช้เทคโนโลยีตรวจวัดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามเวลาจริง (Real Time Fuel Monitoring System) เพื่อเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องยนต์และความสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้วิเคราะห์หาโอกาสและวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ส่งผลให้สามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลในปี 2560 ลงได้ถึง 4.6 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 96 ล้านบาท พร้อมช่วยอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

นายไพโรจน์ กล่าวว่า “เชฟรอนภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 55 ปี ของการดำเนินงานในประเทศไทย เชฟรอนมุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาและนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานในอ่าวไทย ที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต”